วิธีสังเกตอาการของสัตว์ที่สงสัยว่าจะเป็นโรคพิษสุนัขบ้าดังนี้ หางตก เดินโซเซ น้ำลายย้อย ลิ้นห้อย ตาขวาง เซื่องซึม หรือมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปจากเดิมให้กักสัตว์เลี้ยงไว้ดูอาการ 10 วัน และถ้าหากถูกสุนัขหรือแมวที่มีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้ากัด ข่วน หรือเลีย ให้รีบล้างแผลด้วยน้ำสะอาด และสบู่หลายครั้งทันที และถ้าไม่แน่ใจว่าสัตว์เลี้ยงที่กัดนั้นมีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าแฝงหรือไม่ ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้ครบ 4-5 เข็ม แต่ถ้าเคยฉีดวัคซีนโรคนี้มาก่อนแล้ว แพทย์จะทำการฉีดกระตุ้นอีก 1-2 เข็ม
ทั้งนี้โรคพิษสุนัขบ้าอาจจะแสดงอาการออกมาตั้งแต่ 7 วันแรกหรืออาจทิ้งเวลานานกว่า 1 ปีก็ได้ โดยที่ร่างกายจะเริ่มมีอาการเบื่ออาหาร เจ็บคอ มีไข้ อ่อนเพลีย คันรุนแรงบริเวณที่ถูกกัด และมีอาการคันลุกลามไปทั่วตัว เริ่มมีอาการกระสับกระส่าย กลัวแสง กลัวลม กินอาหารหรือน้ำไม่ได้ มีอาการกลัวน้ำ กล้ามเนื้อในระบบทางเดินหายใจเป็นอัมพาต และจะเสียชีวิตในที่สุด ทางที่ดีคือลดความเสี่ยงจากการถูกสัตว์ทำร้ายด้วยหลัก 5 ย. ต่อไปนี้คือ
1. อย่าแหย่สุนัขให้โกรธ
2. อย่าเหยียบหาง หัว ตัว ขา หรือทำให้สุนัขตกใจ
3. อย่าเข้าไปแยกสุนัขที่กำลังกัดกันด้วยมือเปล่า
4. อย่าหยิบจานข้าวหรือเคลื่อนย้ายอาหารขณะที่สุนัขกำลังกินอาหาร
5. อย่ายุ่ง หรือเข้าใกล้สุนัขที่ไม่รู้จักและไม่มีเจ้าของ